สหรัฐฯ รอดภาวะชัตดาวน์หวุดหวิด

ขณะที่บรรยากาศในสภาคองเกรสก็ร้อนระอุ หลังจาก ส.ส.จากพรรคริพับลิกันไม่พอใจประธานสภาที่อ่อนข้อให้กับพรรคเดโมแดรต และยอมให้ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวผ่านสภาไปได้

เมื่อวานนี้ ( 1ต.ค.) หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้รอดพ้นจากภาวะการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ หรือ Government Shutdown ซึ่งเป็นภาวะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องยุติการจ่ายงบประมาณให้กับหน่วยงานต่างๆ เป็นการชั่วคราว เนื่องจากสภาคองเกรสตกอยู่ในภาวะความขัดแย้งเรื่องงบประมาณ และไม่ให้ผ่านร่างกฎหมายด้านงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา

สหรัฐฯ เตรียมงบช่วยยูเครนเพิ่ม 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

พนักงานรัฐบาลกลางสหรัฐนับแสน เสี่ยงถูกพักงาน-ไม่ได้รับเงินเดือน

ทำให้หน่วยงานรัฐบาลกลางต้องปิดชั่วคราว พนักงานของรัฐต้องถูกพักงาน และไม่ได้รับเงินเดือน จนกว่าสภาคองเกรสจะสามารถตกลงกันได้ และจะได้รับการจัดสรรงบประมาณ

โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (30 ก.ย.) ก่อนถึงเส้นตาย คือ เวลา 00.01 นาฬิกา ของวันที่ 1 ตุลาคมตามเวลามาตรฐานของฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ วุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งมีพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ได้ลงมติด้วยคะแนน 88 ต่อ 9 เสียงให้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวไปได้แบบฉิวเฉียด ก่อนจะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้ประธานาธิบดีไบเดน ลงนามรับรองออกเป็นกฎหมายได้ทันเวลา

เช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 335 ต่อ 91 เสียง ทำให้รัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดน มีงบประมาณไปใช้บริหารกิจการของรัฐต่อไปอีก 45 วัน ไปจนถึงวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้

นี่ถือเป็นการหลีกเสี่ยงภาวะชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่อาจเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 22 นับตั้งแต่ปี 1976 หรือในรอบ 50 ปีได้อย่างหวุดหวิด อย่างไรก็ตามสหรัฐฯ เผชิญกับภาวะชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลมาแล้วหลายครั้ง แต่ปีที่เผชิญกับการการชัตดาวน์ของรัฐบาลที่ยาวนานที่สุด คือ เกิดขึ้นระหว่างปี 2018-2019 ซึ่งอยู่ในช่วงการบริหารงานของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีในขณะนั้น

โดยเวลานั้นประธานาธิบดีทรัมป์ขัดแย้งกับพรรคเดโมแครต เรื่องงบประมาณการก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ และเม็กซิโก จนทำให้การเมืองสหรัฐฯ เข้าสู่ทางตัน และทำให้ต้องชัตดาวน์หน่วยงานต่างๆ นานถึง 35 วัน หรือ 5 สัปดาห์

แม้ว่าในครั้งนี้ สหรัฐฯ จะรอดจากการชัตดาวน์ไปได้ แต่เป็นเพียงชั่วคราวและบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายงบประมาณระยะสั้นที่มีผลบังคับใช้เพียงแค่ 1 เดือน กับอีก 15 วันเท่านั้น และหลังจากใกล้ครบกำหนดสิ้นสุดการบังคับใช้ร่างดังกล่าว สภาคองเกรสต้องกลับมาถกเถียงกันใหม่ และคาดว่าหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ จะตกอยู่ในความเสี่ยงภาวะชัตดาวน์ซ้ำอีกครั้ง เนื่องจาก กลุ่ม ส.ส.ฝ่ายขวาจัดจากพรรครีพับริกันไม่พอใจกับรายละเอียดการใช้งบประมาณบางส่วนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

จากนี้ต้องจับตาดูดีกรีความขัดแย้งระหว่างพรรคเดโมแครต และพรรครีพลับลิกันที่ร้อนแรงขึ้น เมื่อกลุ่ม ส.ส.ฝ่ายขวาจัดจากพรรครีพับลิกัน ไม่พอใจบทบาทของ เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภา ที่ประนีประนอมกับพรรคเดโมแครต จนทำให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาไปได้

แมตต์ แกตซ์ (Matt Gaetz) ส.ส.พรรครีพับลิกันจากรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นนักวิจารณ์หัวรุนแรง พร้อมด้วยสมาชิกพรรคริพับลิกันในกลุ่มของเขา ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เควิน แมคคาร์ธีอย่างหนัก ที่เขาประนีประนอมให้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า ตัวเขาเองจะยื่นผลักดันให้มีการโหวต เควิน แมคคาร์ธี ออกจากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม เควิน แมคคาร์ธี ได้ออกมาตอบโต้ โดยระบุว่า ตัวเขาไม่ได้กังวลที่ ส.ส.พรรครีพับลิกันกลุ่มดังกล่าวออกมาท้าทายในการปลดเขาออกจากตำแหน่งพร้อมกับย้ำว่า หากใครอยากเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านเขาก็ให้ออกมาได้เลย และยืนยันว่าสิ่งที่ทำก็เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะการชัตดาวน์

ส่วนความเคลื่อนไหวของโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวานนี้ที่อยู่ระหว่างการหาเสียงในรัฐไอโอวา นักข่าวถามทรัมป์ว่าควรปลด เควิน แมคคาร์ธี ออกจากตำแหน่งหรือไม่ และตัวเขายังสนับสนุนเควิน แมคคาร์อยู่หรือไม่ หลังจากที่เขาได้สนับสนุนให้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณของพรรคเดโมแครต ทรัมป์ตอบว่า ตัวเขาไม่อยากแสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าว และตัวเขาเองก็มีความสัมพันธ์อันดีกับ เควิน แมคคาร์ธี มาโดยตลอด แต่สิ่งที่เขาอยากเห็นจากรีพับริกันคือความเข้มแข็งและเหนียวแน่น เพื่อรับมือกับกลุ่มคนจากพรรคฝ่ายซ้าย

แม้ว่าร่างกฎหมายจะผ่านสภาคองเกรสไปได้ แต่ว่าพรรคเดโมแครตก็ไม่ได้ทุกสิ่งตามที่ต้องการ เพราะในแผนดังกล่าวปรากฏว่าได้มีการตัดเงินช่วยเหลือทางทหารให้กับยูเครนออกไป

ก่อนหน้านี้ในแผนการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงสภาวะชัตดาวน์ของสหรัฐฯ รวมถึงเงินช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมให้กับยูเครนอีก 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2.2 แสนล้านบาท แต่ปรากฏว่าในร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่มีเงินช่วยเหลือรอบใหม่สำหรับยูเครน

โจเซพ บอร์เรลล์ (Josep Borrell) หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศสหภาพยุโรปได้ แสดงความประหลาดใจและเรียกร้องสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ พิจารณาการตัดสินใจในประเด็นนี้อีกครั้ง

นอกจากนี้บอร์เรลล์ยังหวังว่า ข้อตกลงที่เกิดขึ้นจะไม่ใช่การตัดสินใจขั้นสุดท้าย และยูเครนจะยังได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ต่อไป เนื่องจากการมอบอาวุธที่ดีขึ้น และรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมเป็นสิ่งจำเป็นในการทำการสู้รบกับรัสเซีย

ขณะที่อันเดร เยอร์มัก (Andriy Yermak) หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่า แม้ร่างกฎหมายดังกล่าวของสหรัฐฯ จะไม่มีงบประมาณช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม อันเดร เยอร์มัก ยอมรับว่าการตัดความช่วยเหลือเพิ่มเติมได้สร้างความกังวลให้แก่ยูเครน ซึ่งพึ่งพาการสนับสนุนจากชาติตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ในการต่อสู้กับการรุกรานของรัสเซียที่ดำเนินอยู่

อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้ออกมายืนยันว่า การสนับสนุนยูเครนของสหรัฐฯ จะดำเนินต่อไป เนื่องจากเรื่องนี้เป็นประเด็นเร่งด่วน และขณะนี้สมาชิกสภาของพรรคเดโมแครตได้บรรลุข้อตกลงกับพรรครีพับลิกันเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือยูเครนรอบใหม่แล้ว

โปรแกรมการแข่งขันกีฬา เอเชียนเกมส์ 2022 วันที่ 2 ต.คคำพูดจาก สล็อต777. 66 ของนักกีฬาไทย

สหพันธ์กรีฑาโลก ไม่รับรองสถิติวิ่ง 100 ม."เทพบิว" ภูริพล ศึกเอเชียนเกมส์

เปิดปฏิทินวันหยุดตุลาคม 2566 เช็กวันหยุดราชการ-วันสำคัญ

 สหรัฐฯ รอดภาวะชัตดาวน์หวุดหวิด